สำหรับวันนี้... เราก็ได้มาพบกันอีกครั้งนึงนะค่ะ กับดิฉัน "BOOKKY" ครั้งที่แล้ว เป็นคอลัมม์ "คนดังประทับใจ" แต่ครั้งนี้เรามาพบกันกับ คอลัมม์ "นักร้องที่ชอบ...หนังที่อยากเล่า" เราจะมาดูกันว่าแต่ละคนเขาจะมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้าง อย่าชักช้า รีรอเรย.... ไปพบกับคนแรกเลยค๊าาาา
บทสัมภาษณ์ของ คุุณเอ็ม ณ วศ.41
"พี่นภ พรชำนิ" ครับ
BOOKKY : งั้นช่วยเล่าประวัติ คราวๆ ของพี่นภ ให้ดิชั้นฟังหน่อยได้มั้ย
คุณเอ็ม : (ทำท่านึก...) อ๋อ ก็คราวๆนะครับ พี่เขาเป็นนักร้องในสังกัดของพี่บอยด์ โกสิยพงศ์
เขาจบมาจาก มหาลัยมหิดล คณะวิศวะ ตอน ป.ตรี แต่ว่า พี่เขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศใน...สาขาบริหารธุรกิจอ่าครับ
BOOKKY : ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับการเป็นนักร้องเลยเนอะ... แล้วพี่เขามาเป็นนักร้องได้อย่างไง?
คุณเอ็ม : พี่เป็นนักร้องรับเชิญในอัลบั้มของพี่บอยด์"RHYTHM & BOYd"ต่อมาเขาก็ได้เป็นเขียนเพลงร่วมกับพี่บอยด์ด้วย เจ๋งมากจิงๆเลยครับ
BOOKKY : แล้วเพลงที่คุณเอ็มชื่นชอบที่สุดคือเพลงอาไร??
คุณเอ็ม : เอิ่ม... จิงๆ ชอบเยอะแยะไปหมด แต่ชอบที่สุด ฟังแล้วไม่เคยเบื่อ คือ "ฤดูที่แตกต่าง"
BOOKKY : แล้วชอบอาไรในตัวของพี่นภบ้างค่ะ???
คุณเอ็ม : ผมชอบตรงที่เขา เป็นคนรักครอบครัวอ่าคับ แล้วเขาก็มีน้ำเสียงเพราะนุ่ม ฟังสบาย เหมือนได้กินน้ำอุ่นบนยอดเขา ที่มีกองไฟร้อนๆ
BOOKKY : 555+ พูดซะเห็นภาพเลย...
คุณเอ็ม : ผมมีรูปมาโชว์ด้วย เป็นรูปของพี่นภแหละ.. เผื่อจะจำกันไม่ได้
BOOKKY : ต่อไป ก็ขอพูดถึงหนังที่คุณเอ็มดูแล้วชอบ.. แล้วก็อยากถามว่าประทับใจฉากไหน??
คุณเอ็ม : จัดไป....555+ เด๋วเล่าคราวๆให้ฟัง "เรื่องราวของ ต๊อก เด็กชายวัยประถมหก ที่เกิดมาใน ครอบครัวตลกคาเฟ่ ที่สืบทอดเสียงหัวเราะมาตั้งแต่บรรพบุรุษ บ้านนี้รับส่งมุขกันโดยสายเลือด ย่าปู ปู่ชง แม่ตบ พ่อตะหลึ่งตึ่งโป๊ะ แต่ปัญหาคือ ต๊อก ทายาทของครอบครัวตลกดันเกิดมามุขฝืดอย่างแท้จริง งานนี้ลูกชายคนนี้จึงกลายเป็นลูกไม้หล่นไกลต้น ที่มีเพียงคุณหมอรักษาสิว น้ำแข็ง (พอลล่า) คนเดียวที่ขำกับมุขตลกของลูกตลกที่ไม่ตลกคนนี้ จึงทำให้เกิดความรักความผูกพันต่างวัย ที่ดูแล้วต้องอมยิ้มกันทั่วหน้า"
*** ส่วนฉากที่ผมประัทับใจก็คือ ฉากที่ต๊อกหนีไปหาน้ำแข็งที่ กทม. ทุกๆคนในบ้านก็ตามหากัน โดยเฉพาะพ่อ เป็นห่วงมากๆ แต่พอต๊อกกลับมา พ่อก็ด่าว่า แล้วก็ตี แต่ว่าตีตัวเอง ไม่ได้ตีต๊อก ตอนที่ดูน้ำตาแทบจะไหลๆๆๆ เพราะซึ้งในความรักของพ่อ ที่ไม่อยากทำให้ลูกเจ็บ ทั้งๆที่ตัวเองก็โมโห คิดถึงพ่อครับบบ ฮือออๆๆๆๆ
BOOKKY : โอโห้... เล่าแล้ว ดิชั้นอยากจะดูฉากนี้จิงๆ ต้องไปหาแผ่นมาดูแล้ว แหะๆ ก็ขอบคุณสำหรับ เวลานะที่มาให้ดิชั้นสัมภาษณ์ เด๋วดิชั้นจะไปสัมภาษณ์คนอื่นต่อนะค่ะ
สาเหตุที่ชอบ
ส่วนหนังที่ดิชั้นชอบ... ก็คือเรื่อง "หมอเจ็บ" เนื้อเรื่องก็ประัมาณว่า
*** ส่วนฉากที่ผมประัทับใจก็คือ ฉากที่ต๊อกหนีไปหาน้ำแข็งที่ กทม. ทุกๆคนในบ้านก็ตามหากัน โดยเฉพาะพ่อ เป็นห่วงมากๆ แต่พอต๊อกกลับมา พ่อก็ด่าว่า แล้วก็ตี แต่ว่าตีตัวเอง ไม่ได้ตีต๊อก ตอนที่ดูน้ำตาแทบจะไหลๆๆๆ เพราะซึ้งในความรักของพ่อ ที่ไม่อยากทำให้ลูกเจ็บ ทั้งๆที่ตัวเองก็โมโห คิดถึงพ่อครับบบ ฮือออๆๆๆๆ
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง บ้านฉันตลกไว้ก่อน พ่อสอนไว้
คนต่อมาที่เราจะพูดคุยกับเขา เขาก็คือคุณ "ป๋าใหม่" คนนี้เขาจะชอบนักร้องคนไหน แล้วชอบดูหนังอะไร เราต้องมาติดตามกันนะค่ะ
BOOKKY : สวัสดีป๋าา วันนี้ ป๋ามากะใครค่ะ???
ป๋าใหม่ : ป๋ามากับแฟน (อีฟ) อยู่คณะ เภสัช มศว นี้แหละ 55++
BOOKKY : อ่อ.... (ยิ้มๆ) วันนี้จะมาคุยกันเรื่อง นักร้องที่ชอบ...หนังที่อยากเล่า อยากถามว่า นักร้องที่ ชอบคือใครหรอ?
ป๋าใหม่ : นักร้องที่ป๋าช๊อบ ...ชอบคือ ชากีรา อีซาเบล เมบารัก รีโปลย์ เรียกสั้นๆว่า ชากีรา
BOOKKY : เขาคือใครอ่ะ?? ดิชั้นไม่เคยรู้จักเรย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิค่ะ..??
ป๋าใหม่ : เอาแบบสั้นๆไ้ด้ใจความเรยล่ะกันนะอินู๋ ชากีรา เป็นคนโคลัมเบียร์ที่ร้องเพลงเพราะ เขาเป็นผู้หญิงนะ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ ชากีราได้เป็นหนึ่งในนักร้องที่ร้องเพลงประจำการแข่งขันครั้งนี้ด้วย ในเพลง "Waka Waka (This Time for Africa)" ซึ่งเป็นวลีในภาษาผสมแก้ขัด (พิดจิน) ที่มีพื้นฐานจากภาษาฟาง (Fang) ในภูมิภาคแอฟริกากลาง แปลความหมายได้ว่า "(ได้เวลาแล้ว) ทำเลย/ลุยเลย"
BOOKKY :อ๋อ....ดิชั้นพอจะนึกหน้าออกแร้ว ขอดูรูปเขาหน่อยได้มั้ยค่ะ ป๋า..
ป๋าใหม่ :(ล้วงหารูปในเป๋าตังค์)...เจอแระ..ๆๆๆ
นี่คือรูปภาพจากเป๋าตังค์ของป๋าใหม่..พกติดตัวตลอดเรยเชียวว!!
BOOKKY : แล้วป๋าา ชอบอะไรในตัวของนักร้อง ชากีรา คนนี้หรอค่ะ??
ป๋าใหม่ : (ทำท่าหึกเหิมและกระหยิมยิ้มย่อง) ก็เขาหุ่นดีอ่าครับ ถึงแม้ว่าจะอายุเยอะแล้ว และเขาก็มีเสียงที่ดี มีท่าเต้นเป็นเอกลักษณ์แบบสไตล์ลาติน
BOOKKY : 55++ ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วยละค่ะ... ต่อไปขอถามถึงหนังที่อยากเล่าหน่อยสิ
ป๋าใหม่ : หนังที่ผมอยากมาเล่าให้ฟัง ชื่อว่า.. " PLANET OF THE APES" หรือแปลเป็นไทยว่า พิภพวานร เนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ เด๋วป๋าจะเล่าให้ฟัง
** ในปีค.ศ.2029 อากาศยานลำหนึ่งขัดข้องระหว่างภารกิจการสำรวจ นักบินชื่อ ลีโอ เดวิดสัน(พระเอก) พยายามนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน แต่ที่ซึ่งเค้าจอดเครื่องนั่นไม่ใช่พิภพที่เรียกว่าโลกมนุษย์แต่อย่างใด ลีโอพบว่านี่คือพิภพประหลาด เป็นพิภพที่ล้าหลังและเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน โหด ดิบ มีการปกครองโดยวานรหรือลิงนั่นเอง โดยที่มนุษยชาติถูกไล่ล่าและตกเป็นทาสรับใช้พวกวานร
โดยพระเอกลีโอของเราได้รับความเห็นอกเห็นใจจากนางเอกซึ่งเป็นลิงหรือวานรนั่นเอง เธอมีชื่อว่าอารี เธอคอยให้ความช่วยเหลือพวกเชลย(มนุษย์)ให้หลบหนีกลับไปโลก ลีโอและกลุ่มเชลยพยายามเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มหัวหน้าวานรซึ่งนำโดยแม่ทัพเธด (ชื่อเท่ดี แต่เป็นลิง)และลูกสมุนจอมโหดชื่อแอททาร์ และพระเอกลีโอของเราก็พยายามพาผู้คนหลบหนีไปยังวิหารต้องห้ามเพื่อกลับโลกมนุษย์
เรื่องราวจะเข้มข้นเร้าใจขนาดไหนท่านควรจะเป็นผู้ตัดสินกันเอง เพราะถ้าถามผมแล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวว่า ‘‘หรอยอย่างแรง เลยนิ’’ ต้องลองๆๆ!
เรื่องราวจะเข้มข้นเร้าใจขนาดไหนท่านควรจะเป็นผู้ตัดสินกันเอง เพราะถ้าถามผมแล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวว่า ‘‘หรอยอย่างแรง เลยนิ’’ ต้องลองๆๆ!
BOOKKY : หนุกแรงเรยหนิ 55++ ฟังแล้วตื่นเต้น น่าสนใจดีจัง แล้วทำไมถึงชอบหนังเรื่องนี้??
ป๋าใหม่ : ชอบเพราะว่า สอนให้เรารู้ว่า คนต่างกับลิงตรงไหน แล้วก็มีฉากต่อสู้ที่อลังการ และเป็นเรื่องที่ใช้จินตนาการสูง อ๋อ อีกอย่าง คือ สอนให้รุ้จักช่วยเหลือกันและกัน เมตตาผู้อื่น
ภาพจากหนังเรื่อง PLANET OF THE APES
เอาล่ะค่ะ ดิชั้นสัมพาดคนนู้น คนนี้มาเยอะและ ฟังดูแล้วก็คันปากอยากจะเล่าบ้าง อิอิ ฟังดิชั้นหน่อยนะค่ะทุกๆคนนน 5555
สำหรับตัวดิชั้นเอง...ชื่นชอบนักร้องอยู่คนนึง ไม่ใช่ ก๊อป หรือ ไมค์ หรือพี่แดน แต่นักร้องคนที่ดิชั้น...ชื่นชอบ คนๆนั้นคือ... ดนุพล แก้วกาญจน์ หรือพี่แจ้
นี่คือรูปพี่แจ้ ที่ดิชั้นชอบ...
เ่ล่าประวัติคราวๆ ของพี่แจ้..
ดนุพล แก้วกาญจน์ หรือแจ้ เกิดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2502 จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจาก โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ตอนปลายจาก โรงเรียนหอวัง เริ่มเล่นโฟล์คซองตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และเป็นนักร้องอาชีพครั้งแรกที่เลิฟคอฟฟี่ช็อป (ชั้น 4 สยามเซ็นเตอร์) จากนั้นก็เล่นที่ "เบิร์ธเดย์" ใต้ถุนโรงหนังเพรสซิเด้นท์ จนกระทั่งเป็นสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ ติดต่อให้มาเป็นนักร้องนำของวง แทนจำรัส เศวตาภรณ์ ที่ลาออกไป วงแกรนด์เอ็กซ์ได้รับความนิยมอย่างสูง จนทำให้สถานที่จัดงานพังไปหลายแห่ง เช่น ที่หอประชุมจุฬาฯ เสียหายจากการแสดงคอนเสิร์ต 2 ครั้ง จนต้องปิดซ่อม และไม่ยอมให้วงแกรนด์เอ็กซ์ ใช้สถานที่จัดคอนเสิร์ต อีก หรือโรงละครแห่งชาติ ที่แฟนเพลงอัดแน่นจนกระจกแตก
ดนุพล แก้วกาญจน์ ร่วมงานกับ แกรนด์เอ็กซ์ ครั้งแรกในอัลบั้มชุด "เขิน" และไล่เรียงต่อมาอีกหลายชุด ได้แก่ "ผู้หญิง" "GRAND X.O." "บุพเพสันนิวาส" "นิจนิรันดร์" "พรหมลิขิต" "เพชร" "บริสุทธิ์" "ดวงเดือน" จนปี 2527 วงแกรนด์เอ็กซ์ สมาชิกจำนวนหนึ่ง แยกไปทำผลงานวงเพื่อน ส่วนแกรนด์เอ็กซ์ ที่เหลือก็เปลี่ยนชื่อเป็น แกรนด์เอ็กซ์แฟมิลี และมีอัลบั้มออกมาอีกสองชุด คือ "หัวใจสีชมพู" และ "สายใย" ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดสุดท้าย ที่ดนุพล แก้วกาญจน์ ทำร่วมกับวงแกรนด์เอ็กซ์
เนื่องจาก คุณพ่อของดิฉัน ชอบฟังเพลงของแจ้ ดนุพล มาก และเปิดบ่อย จนดิฉันรู้สึกชินหู และเริ่มจำเนื้อร้องได้ จนกระทั่งรู้สึกชอบเพลงของแจ้ และ ชอบในตัวแจ้ ที่มีความสามารถมาก ร้องเพลงได้ไพเราะ ออกเสียงชัดเจน เสียงนุ่น ฟังสบายหู และเพลงส่วนใหญ่ของแจ้ เป็นเพลงที่มีความหมายงดงามมาก และฟังง่าย สบายๆ
ส่วนหนังที่ดิชั้นชอบ... ก็คือเรื่อง "หมอเจ็บ" เนื้อเรื่องก็ประัมาณว่า
เรื่องของหมอ ใครว่าเครียด! หมอเจ็บ เรื่องราวดุเด็ดเผ็ดมันแบบเจ็บๆ ของคู่หูนักเรียนหมอตัวแสบที่ใครๆ เห็นแล้วก็ไม่อยากเชื่อว่าเป็นพฤติกรรมของคนที่จะเป็นหมอ แต่ท้ายสุด คู่หูคู่นี้ก็จะทำให้ทุกคนเห็นและยอมรับว่าหมอที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องแก่วิชาน่าเบื่อเสมอไป จะมีหมอเจ็บๆ คันๆ แบบสองคนนี้บ้างก็ไม่ทำให้วงการแพทย์เสียหายแต่อย่างใด
หมอพาย หมอถุน สองคู่ซี้คู่ซ่าส์ นักเรียนหมอเอ๊กซ์เทิร์น ถึงคราวต้องออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปฝึกงานภาคสนามที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัดห่างไกลความเจริญ ทั้งสองต้องเผชิญกับหมอรุ่นพี่จอมเผด็จการสุดเฮี้ยบ พยาบาลสาวใหญ่จอมโหดสุดโต่งที่ชอบข่มหมอใหม่ และพยาบาลสาวสวยที่มากไมตรี โดยเฉพาะกับคุณหมอหนุ่มๆ แถมด้วยเหล่าคนป่วยที่ห่างไกลความเจริญหลายหลากรูปแบบ เมื่อองค์ประกอบที่ว่านี้มาเจอกับพฤติกรรมหลุดกรอบของสองหมอเข้า ก็เกิดเป็นปฏิกิริยาที่ดุเดือด วุ่นวาย ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ เฮฮา ปนเปกันไป
หมอพายและหมอถุน ไม่เคยคิดเลยว่าเพียงชั่วเวลาไม่กี่เดือนที่โรงพยาบาลต่างจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้จะเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย ซึ่งทำให้พวกเขาได้ประสบการณ์และความรู้ เติบโตในความเป็นหมอมากขึ้น และยังทำให้พวกเขาได้เรียนรู้เรื่องของมิตรภาพ และ ความรัก เติบโตในความเป็นคนเพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อการฝึกงานจบลง พวกเขาก็กลับสู่บ้านเกิด กรุงเทพฯ มหานครอันกว้างใหญ่ เข้าสู่การสอบครั้งสุดท้ายเพื่อจบเป็นหมออย่างเต็มตัว แต่กลับมีสถานการณ์พลิกผันที่ทำให้หมอพายต้องตัดสินใจ
ฉากที่ประทับใจ
ฉากตอนที่ หมอพายต้องสอบเพื่อที่จะได้เป็นหมออย่างเต็มตัว แต่ระหว่างการสอบกำลังจะเริ่มขึ้น ได้มีโทรศัพท์โทรมาแจ้งข่าวว่า หลวงตา ผู้มีพระคุณกับหมอพาย กำลังอยู่ในอาการโครม่า เนื่องจากโรคฉี่หนู(leptospirosis) หมอพายไม่ลังเล เลือกที่จะกลับมารักษาหลวงตา ทำให้เราต้องชะลอการเป็นหมอต่อไปอีกหนึ่งปี
สาเหตุที่ประทับใจ
แม้ว่า หมอเจ็บ จะเป็นหนังที่ไม่มีเอฟเฟค ไม่มีฉากต่อสู้ ไม่ใช่หนังที่มีฉากอลังการ หากเป็นเพียงหนังธรรมดาเรื่องหนึ่ง ที่เกิดจากฝีมือของคนไทย ที่ได้สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ของการเป็นแพทย์ รวมถึง สอนให้รู้จักกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีน้ำใจให้กับคนรอบข้าง จริงใจกับเพื่อน และมีใจรักในอาชีพของตนเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเพราะค่านิยมหรือเห็นแก่รายได้ ชื่อเสียง และความโด่งดัง
เพลง ของพี่นภ
เพลงของ ชากีรา
เพลงของพี่แจ้
อ๊ะ อ๊ะ!!!! ศิลปิน และหนังที่ชื่นชอบ ของ แฟ้ม หรือ ฟ้วม หรือ ชูมาร์คเกอร์ ฮ่าๆๆ มีนามจริงว่า ชิตพล เอกมั่นคงไพศาลครับ ^.^
ก่อนอื่นเลยศิลปินที่ผมชอบ เธอคนนี้เป็นแรงบรรดาใจให้ผมเล่นกีตาร์แนว acoustic ในแนวทางที่เป็น style ของตัวเองครับ เธอชื่อ Cathy Nguyen เธออาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปแต่เธอมีชื่อเสียงมากใน youtube ครับ โดยแต่ละเพลงที่เธอไป feat. หรือ ร้องเองนั้นมีคนดูเป็นล้านๆ (อันนี่ก็เวอร์ไป) เธออายุได้ 22 ปีครับเป็นลูกครึ่งเวียดนาม ฝรั่งเศษ ไทย อเมริกัน (เยอะจริง) แนวเพลงที่เล่น acoustic ครับ เหตุผลที่ผมชอบเธอประเด็นหลักคือ styleเสียง และความน่ารักครับ คือ ทั้งหน้าตาความน่ารัก + ความสามารถและเสียงร้อง ผมให้ ใจไปหมดหน้าตักครับ (ประวัติจาก youtube เรียบเรียง โดยแฟ้ม)
ก่อนอื่นเลยศิลปินที่ผมชอบ เธอคนนี้เป็นแรงบรรดาใจให้ผมเล่นกีตาร์แนว acoustic ในแนวทางที่เป็น style ของตัวเองครับ เธอชื่อ Cathy Nguyen เธออาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปแต่เธอมีชื่อเสียงมากใน youtube ครับ โดยแต่ละเพลงที่เธอไป feat. หรือ ร้องเองนั้นมีคนดูเป็นล้านๆ (อันนี่ก็เวอร์ไป) เธออายุได้ 22 ปีครับเป็นลูกครึ่งเวียดนาม ฝรั่งเศษ ไทย อเมริกัน (เยอะจริง) แนวเพลงที่เล่น acoustic ครับ เหตุผลที่ผมชอบเธอประเด็นหลักคือ styleเสียง และความน่ารักครับ คือ ทั้งหน้าตาความน่ารัก + ความสามารถและเสียงร้อง ผมให้ ใจไปหมดหน้าตักครับ (ประวัติจาก youtube เรียบเรียง โดยแฟ้ม)
(รูปภาพจาก facebook.com/cathyngyenmusic)
ส่วนภาพยนตร์ที่ผมชื่นชอบคือ season change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
นักแสดงนำมี บอล ต่าย นาถครับ เรื่องนี้จะเกี่ยวกับความรักวัยเรียน ที่เด็กชายคนนึงมาเรียนดนตรีก็เพราะเค้าชอบสาวคนนึงที่เข้าโรงเรียนนี้(นาถ) จึงตัดสินใจมาเรียนและได้มาพบกับต่าย หล่อนมีความรู้ทางดนตรีแน่น แต่ ทักษะต่ำ หล่อนได้ชอบบอลเข้าให้แล้วแต่โดยส่วนรวมจะเกี่ยวกับเรื่องดนตรี เหตุที่ผมชอบเรื่องนี้เอามากเพราะผมชอบพี่นาถครับ เอ้ยรักดนตรีมากกว่าเลยชอบเข้าขั้นครับ
(เรียบเรียงโดยแฟ้ม ภาพ google)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น